‘วีระมือ’ รีบรัฐบาล แก้ไขปัญหาประปาเค็ม หวาดหวั่น ประชาชน เสี่ยงโรคไตวาย

‘วีระมือ’ รีบรัฐบาล ไขปัญหาประปาเค็ม หวาดหวั่น ประชาชน เสี่ยงโรคไตวาย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ ที่สภานิติบัญญัติ นายวีระแขน คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชาชนเมือง (พปชราชการ) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธนาคาร) วิสามัญตรึกตรองเรียนวิถีทางบริหารจัดแจงแถบที่ลุ่มทั้งยังระบบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีประปาเค็มว่า ในจ.กรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรีแล้วก็จังหวัดสมุทรปราการ พลเมืองใน 3 จังหวัดนี้จะพบน้ำก๊อกเค็ม ถ้าค่าความเค็มเกิน 0.5 กรัมต่อลิตร นับว่าเป็นน้ำกร่อยและก็ 1 กรัมต่อลิตร ถือได้ว่าน้ำทะเล
แม้กระนั้นตอนวันที่ 30 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ กำเนิดน้ำทะเลหนุนทำให้ค่าความเค็มของน้ำอยู่ที่ 2.2 กรัมต่อลิตร สูงยิ่งกว่ามาตรฐานสำหรับน้ำทะเล 1 เท่าตัว ซึ่งตนได้เตือนไปแล้วว่าให้รีบหาทางปรับแก้ เดี๋ยวนี้แม่น้ำเจ้าพระยามีค่าความปรารถนาน้ำ 18,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจำต้องเอาน้ำไปไล่น้ำเค็มปีหนึ่งโดยประมาณ 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากเกินความจำเป็น
ก็เลยได้แนะนำขั้นตอนการกับกรมชลประทาน ว่าให้ทำเปิดประตูน้ำเพื่อน้ำได้มีการเดินทางแม้กระนั้นควรมีการหยีไม่ให้น้ำทะเลเข้ามาเต็มกำลัง เนื่องจากว่าจำต้องใช้น้ำจืดมากจนเกินไปสำหรับการไล่น้ำเค็ม โดยยิ่งไปกว่านั้นปีที่ไม่มีน้ำจืด รวมทั้งปริมาณน้ำฝนน้อยมาก ยังไงก็ไม่พอต่อการไล่น้ำเค็มอย่างแน่แท้
นายวีระแขนกล่าวว่ากล่าว เสนอกรรมวิธีการปรับปรุงแก้ไขไปสุดแต่ยังมิได้รับการปรับแก้ ก็เลยต้องการเร่งรัดรัฐบาลให้พิจารณาถึงวิธีการทำนบดินหรือประตูน้ำ ฝายพับได้ จะต้องคิดตั้งแต่วันนี้ด้วยเหตุว่าจำนวนความขาดแคลนน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้นเรื่อยๆปีละกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ใน 20 ปีด้านหน้าความขาดแคลนน้ำจะเป็น 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ขอฝากกรมชลประทานแล้วก็รัฐบาลรีบจัดการกับปัญหาน้ำทะเล มิเช่นนั้นพสกนิกรทั้งยัง 3 จังหวัดที่ใช้น้ำบางทีอาจเป็นโรคไตวาย โดยกมธนาคารจะสัมมนาในอาทิตย์หน้าหรือภายหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ